Pages

Tuesday, April 26, 2011

Washington: the evergreen state ตอน 3

คืนสุดท้ายของทริปที่ Seattle เราพักกันที่ Holiday Inn Express ครับ เหตุผลที่เลือกที่นี่มีสองสามข้อครับ อย่างแรกคือถูก ฮ่าๆ ถ้าพักใน downtown จริงๆผมรับราคาไม่ไหวครับ เลยต้องฉีกออกมาไม่กี่สิบบล็อค ก็ได้คืนละไม่ถึง 25 ต่อคนแล้วครับ ข้อสอง จากตรงนี้ใกล้ Space Noodle....เอ้ย Space Needle มาก เดินทางไปชมวิวได้สะดวกครับ แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ที่นี่มากเท่าไหร่ 555 อย่างสุดท้ายคือตรงนี้เป็นระยะที่พอเดินไป Free ride area ได้ครับ

ใน Downtown seattle อย่างนึงที่ผมชอบมากๆคือ นั่งรถเมล์ฟรีครับ โอ้วววววว พระเจ้าจอร์จ แต่ที่ฟรี จะมีขอบเขตอยู่ครับ ถ้านั่งเลยออกจากนั้น หรือขึ้นก่อนตรงนั้นเพียงป้ายเดียว เสียเงินทันที ฮ่าๆๆ ผมว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก เพราะสนับสนุนให้คนใช้ขนส่งมวลชน ทำให้ downtown รถติดน้อยลง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมบ้านเราก็มีรถเมล์ฟรี แต่ยังรถติดอยู่ดี 5555 ฉะนั้นจาก Holiday Inn เดินเข้ามาใน free ride area ประมาณ 10 นาที แล้วก็ลิงโลด ไม่ต้องเสียเงินอีก เป็นข้อดีของที่ตั้งโรงแรมที่ผมชอบมากครับ ดูแผนที่ได้จาก link นี้ครับ แต่ว่าฟรีเฉพาะรถเมล์ King County ส่วน Sound Transit ซึ่งมีรถรางไปสนามบิน Sea-Tac ได้จะไม่ฟรีนะครับ

เริ่มต้นด้วยเช้าวันจันทร์ด้วย First Starbucks สำหรับคนรักการแฟ เริ่มเดินจากโรงแรมไป 3rd Ave ซึ่งจะมีรถเมล์ผ่านเยอะที่สุด นั่งไปสักพักจนถึง Stewart St. เดินไปทางริมน้ำก็จะถึงโซน Pike Place Market ครับ ที่นี่เป็นสวรรค์ของการกินเลยทีเดียว ผมเองยังชิมร้านเด่นๆไม่หมดเพราะว่าหาไม่เจอ ฮาาาาาาาาาา


เห็นป้ายนี้ แสดงว่าเรามาถึง Pike Place Market ที่ใครมา Seattle ก็ต้องมาที่นี่ครับ

เอาเป็นว่าจุดหลักๆที่เราไปก็มีดังนี้ครับ

First Starbucks อยู่ตรง Pike Pl ระหว่าง Virginia St. กับ Stewart St. คอกาแฟน่าจะชอบครับ มีของที่ระลึกมากมาย และโลโก้ร้านนี้ก็ไม่เหมือนร้านอื่นซะด้วย ส่วนผม ไม่กินกาแฟครับ 555 ใกล้ๆกันมีร้านขนมปังฝรั่งเศสชื่อ Le Panier ซึ่งผมไปทานมาชิ้นสองชิ้น ก็อร่อยดีครับ เดินไปนิดหน่อยทาง Pine St. จะเจอร้านชีสอยู่หัวมุมเลย มองเห็นเขากำลังทำชีสสดๆ น่าทานมาก น่าอร่อยครับ แต่เป้าหมายเราอยู่อีกที่นึงครับ




Pike Place Chowder อยู่บน Post Alley เดินจาก Pike Pl จนถึงแยกเข้า Post Alley แล้วเดินไปอีกนิดก็เจอครับ ขอบอกว่า Clam Chowder อร่อยมวาาาาากกกกกกก กินแล้วไม่เลี่ยนครับ เพลินดี แต่อย่าไปเร็วนะครับ ผมไปตั้งแต่สิบโมงเช้า ต้องยืนกดดันเจ้าของหน้าร้าน 5555 วันที่ผมไปวันจันทร์ เพิ่งรู้ว่าร้านเปิด 11 โมงครับ


จากนั้นเราก็เดินเล่นใน Pike Place Market กัน ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามนั่นเอง มาที่นี่ก็ต้องถ่ายรูปกับหมูตัวเก่งที่อยู่ด้านหน้าร้านขายปลาครับ มีให้หยอดเงินเป็นหมูออมสินด้วย 55 อยู่ตรงนั้นจะได้ยินเสียงโหวกเหวกขายของจากร้านขายปลานั่นเองครับ ร้านนี้โด่งดังมาก ใครมาที่นี่ก็ต้องผ่านร้านนี้ เพราะตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าขายดีหรือเปล่า 555 นักท่องเที่ยวคงไม่ค่อยมีใครซื้อกุ้งหอยปูปลาสดๆ แล้วเดินหิ้วเที่ยวชมเมืองต่อนักหรอกครับ



แถวๆ Pike Place มีร้านขายผลไม้มากมาย ร้านขายปลาก็เยอะ ดอกไม้อีกมากมาย เรียกได้ว่าผมไม่เห็นทิวลิปที่ Skagit Valley ก็ได้มาเห็นที่นี่ครับ ฮ่าๆๆ ร้านขายผลไม้ที่อยู่ด้านนอกถนน ใกล้ๆกับหมูออมสิน มีคนขายที่เป็นฝรั่งแต่พูดไทยได้ด้วยนะครับ :)




ถ้าหันหน้าเข้าร้านขายปลา (ไม่ใช่ร้านในภาพบนนะครับ ร้านที่มีรูปปั้นหมูอยู่ด้านหน้าครับ) เดินไปทางซ้าย ลงบันไดไป ก็จะเห็นตรอกเล็กๆ กำแพงเป็นอิฐ มีสีสวยๆอยู่เต็มกำแพงไปหมด ให้ลองจับได้ครับ ที่นี่คือ Gum Wall เป็นกำแพงที่คนเอาหมากฝรั่งมาเคี้ยวแล้วมาแปะไว้จนเต็มผนัง เห็นๆขยะแขยงอย่างนี้ มันสวยนะ 5555



จากหน้าร้านขายปลาเช่นกัน เดินเลี้ยวหัวมุมไปทางซ้าย ก็จะเห็นร้านขายโดนัทชื่อ Daily Dozen ครับ หน้าตาโดนัทเหมือนโดนัทเคลือบน้ำตาลตามตลาดนัดบ้านเรา (จริงๆ Pike Place ผมว่ามันก็เหมือนตลาดนัดจตุจักร) แต่ที่พิเศษและทำให้โดนัทที่นี่ดังมากคือ texture ที่นุ่มมากๆ แต่ข้างนอกกรอบ เรียกได้ว่าเรียกน้ำย่อยผมไปได้ดีทีเดียวเลย กินแล้วอ้วนขึ้นอีกต่างหาก 555 ไขมันทั้งนั้น

จบจาก Donut เราก็ออกจากย่าน Pike Place เดินผ่านรูปปั้น Hammer man ที่ Seattle Art Museum (SAM) นั่งรถเมล์(ฟรี)ลง Transit Tunnel ป้าย University ไป Pioneer Sq เป้าหมายคือ Underground Tour ซึ่งเป็น Historic tour ค่าเสียหายคนละ $15 ราคานักเรียน $12 ครับ ฉะนั้นอย่าลืมพกบัตรนักศึกษามาด้วยครับ


Hammer man



Transit Tunnel เป็นอุโมงค์ให้รถเมล์และ Light Rail วิ่งร่วมทางเดียวกัน ประหยัดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินไปเยอะเลยครับ 


Occidental Park ใกล้ๆกับ Underground Tour Office ครับ

Underground Tour ก็ underground สมชื่อครับ ไกด์จะพาเราเดินทะลุไปยัง Underground Seattle ส่วนที่เคยเป็นเมืองเก่า และมีเหตุจำเป็น ส้วมตัน น้ำทะเลหนุน และไฟไหม้เมือง ทำให้ต้องสร้างเมืองใหม่ทับเมืองเก่าลงไป ฟังดูน่าตื่นเต้นดีครับ โดยรวมก็แนะนำให้มาชมครับ ไกด์พูดตลกดี และได้เห็นประวัติศาสตร์ของเมืองนี้แบบแปลกๆด้วย (เรื่องส้วมตัน 555) ไกด์ก็จะพาเราเดินลงไปใต้ดินจริงๆ แต่ไม่ได้พาเดินไปไกลมากนะครับ เป็นแค่รอบๆ Pioneer Square เท่านั้นเอง ผมคาดว่าจริงๆก็มีส่วนทะลุไปใต้เมืองได้ทุกที่ แต่ทาง Tour ก็จัดไว้ให้ชมเฉพาะบางส่วนพอให้ได้ซึมซับบรรยากาศ ประวัติศาสตร์เก่าๆของเมืองนี้ครับ




เสร็จจาก Underground ก็ไปหาอะไรกินที่ Ivar's เป็นพวกอาหารทะเลทอด fish and chips อะไรพวกนั้นครับ ก็พอประทังหิวไปได้นิดหน่อย ผมแพลนว่าจะปิดท้ายวันนี้ที่ Olympic Sculpture Park และ Space Center ครับ



Olympic Sculpture Park

ที่ Olympic Sculpture Park ก็มี Art สวยๆน่าเดินครับ แต่เนื่องด้วยวันนี้หมดแรงกัน เราเลยเดินเลยผ่านไป Space Needle กันอย่างรวดเร็ว Space Needle สร้างขึ้นเพื่อเป็น Landmark ในช่วงงาน Expo ปี 1962 นานมากเหมือนกันนะเนี่ย แต่ผมว่าสถาปัตยกรรมมันดูเด่นมากๆ และดูเข้ากับเมืองได้ดีเลย ถ้ามองจาก Kerry Park ที่พาไปในตอนแรก จะเห็นว่า Space Needle ไม่ได้เป็นส่วนเกินของเมืองเลยครับ วิวข้างบนก็สวยครับ ถ้ามาตอนกลางคืนจะวิวดีมาก ใช้ขาตั้งได้ด้วย (ผมใช้มาแล้ว เขาไม่ห้ามครับ) นานๆทีจะได้เห็นตึกที่อนุญาติให้ใช้ขาตั้งครับ



มุมจาก Kerry Park ตอนกลางคืน



ได้เจอ Space Noodle ตัวจริงเสียงจริงด้วยครับ ล้อกันเล่นๆ ไม่นึกว่ามันจะมีจริง 555 พี่แหวนถึงกับต้องขอถ่ายภาพเก็บไว้เลยทีเดียว


ถ่ายพี่โบภาพนี้เล่นเอาผมหน้ามืดไปเล็กน้อย เพราะเงยเยอะมาก 55

เราใช้เวลากับ Space Needle เพียงแป๊บเดียว เลยได้ไปปิดท้ายจริงของวัน ที่ University of Washington ซึ่งก็เป็นที่แรกที่เรามา เพราะว่าหนแรกที่มานั้นยังถ่ายซากุระไม่จุใจ คนเยอะ (แดดดีเกินไป) แต่พอมาเย็นวันจันทร์ มีเมฆบ้างนิดหน่อย แต่คนเงียบลงไปเยอะมากครับ ทำให้เราซึมซับบรรยากาศได้เต็มอิ่มจริงๆ และเห็นพ้องต้องกันว่า ซากุระที่นี่สวยกว่าดีซีอีก (จากคนที่ไปดีซีมาแล้ว)







อาหารเย็นวันนี้ก็ไม่ใช่ที่ไหนอื่นครับ ร้าน Little Thai Restaurant เจ้าเก่านั่นเอง ฝากท้องที่นี่ไว้วันแรก ก็มาฝากท้องวันสุดท้ายด้วยเช่นกัน อาหารอร่อย ราคาถูก และเจ้าของน่ารักมากๆครับ อยากให้มาเปิดสาขาแถวๆ Chapel Hill จริงๆเลย

และแล้วเราก็ต้องอำลา Seattle กันแล้วครับ กินอาหารอิ่มยังไม่ทันได้ย่อย ผมก็เร่งลูกทริปไปขึ้นรถเมล์ เพราะจะได้ไปสนามบินได้ทันเวลาครับ หลังจากวิ่งบ้าง เดินบ้าง แบกกระเป๋า(ที่ฝากไว้กับโรงแรมตั้งแต่ตอนเช้า)โทงๆ นั่ง Sound Transit และแล้วเราก็มาถึงสนามบินก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงพอดี :)

ทริปนี้ผมขอขอบคุณพี่ๆที่ไปด้วยกันทุกคน ทั้งแกงค์ UNC Radiology พี่แหวน พี่เจเจ พี่เชษฐ์ พี่ Mateus ขอบคุณพี่เชษฐ์และ Mateus ที่ช่วยขับรถให้อย่างดี หวังว่าแพลนผมคงไม่ทำให้พี่ขับเหนื่อยเกินไป ขอบคุณพี่ยุ พี่โบ น้องหวาน อาหารอร่อยมากครับ และขอบคุณน้องแก้วที่มาเที่ยวด้วยกัน แม้ว่าจะต้องอ่านหนังสือไประหว่างนั่งรถ 555 ช่วยแนะนำอาหารอร่อยมากมายรอบ Pike Place พาเดินรอบมหาลัย และคอยช่วยบอกทางทุกอย่างทุกครั้งที่พี่มา Seattle พี่เลยขายให้เลนส์มาโครเป็นของขอบคุณ :)

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ ไว้เจอกันในเรื่องราวของทริปหน้าครับ

พี

ทิ้งท้ายด้วยภาพเก่าๆที่ผมเคยถ่ายไว้เมื่อเกือบปีครึ่งแล้ว มุมนี้ถ่ายจาก Doctor Jose Rizal Park นั่งรถเมล์จาก International District ราวๆสิบถึงสิบห้านาทีเองครับ แต่ถ้าไปคนเดียวต้องระวังหน่อยนะครับ เพราะว่า area ตรงนี้ไม่ค่อยปลอดภัย (โชคดีที่ผมไปคนเดียวแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น)

1 comment:

  1. ดีใจที่พี่พีชอบโดนัท ตลกนะเนี่ยหน้าหาเหมือนโดนัทข้างถนนเมืองไทย แต่อร่อยเน๊อออออ :)))))

    ReplyDelete